
6 เดือนโตกระโดด 300% เพราะทำเลที่ตั้งคือหัวใจในการทำธุรกิจ “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ”
เพราะทำเลที่ตั้งคือหัวใจในการทำธุรกิจ “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ”
นำเทคโนโลยีแผนที่อัจฉริยะ นอสตร้า เดินหน้าขยายสาขา เพิ่มยอดสินเชื่อ
เติบโตแบบก้าวกระโดด 300% ใน 6 เดือน
“ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” เมื่อปี 2007 ที่บริษัทประกันวินาศภัยระดับโลกซื้อกิจการไฟแนนซ์ท้องถิ่น ซึ่งให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมาบริหารทั้งหมด 133 สาขา จนได้มาอยู่ในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยาในปี 2008 และยกระดับรูปแบบการให้บริการพร้อมเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าสินเชื่อมากขึ้นจนประสบความสำเร็จ ปัจจุบันปี 2016 ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ มีสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 410 สาขา ทั่วประเทศ จากการใช้แผนที่ “นอสตร้า” มาใช้ในการวางแผนขยายสาขา

นายธีวินท์ จิตรสถาพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสาขา บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่รู้จักกันดี ในนาม “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” เปิดเผยว่า “การทำธุรกิจในช่วงเริ่มต้นเราใช้วิธีการเปิดสาขาโดยการเน้นอยู่ทำเลที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่และกรมขนส่ง เพราะโจทย์ตอนนั้นคือต้องการเน้นสร้างยอดสินเชื่อให้เติบโตโดยเร็ว เราจึงมุ่งเน้นไปยังลูกค้าที่มีรถเก๋ง รถกระบะ และรถบรรทุกใช้งาน และถ้าเรามีสาขาอยู่ติดริมถนนใหญ่ที่มีรถใหญ่สัญจรไปมาเพื่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะเห็นเราได้อย่างชัดเจน อีกทั้งเรายังต้องการสร้างการรับรู้ของ แบรนด์ เพราะตอนนั้นเรายังไม่มีโฆษณา ลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ มากนัก นอกจากนี้การที่มีสาขาอยู่ไม่ไกลจากกรมขนส่งก็จะทำให้สะดวกเวลามาโอนรถ แต่โจทย์ในปัจจุบันเปลี่ยนไป ลูกค้ารู้จักเราผ่านสื่อโฆษณาเป็นอย่างดี จนการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้นสูงถึงระดับ 97% และจากวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจของ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ คือ การเป็นองค์กรที่จะช่วยให้ประชาชนที่ใช้บริการเงินกู้นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้นเพื่อลดปัญหาดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงเกินความเป็นจริง การติดตามทวงหนี้ไม่เป็นธรรม อีกทั้งบริษัทฯ เองก็ยังสามารถลดความเสี่ยงจากหนี้เสียที่เกิดจากยอดสินเชื่อก้อนใหญ่ของรถประเภทดังกล่าวได้อีกด้วย เราจึงเพิ่มกลุ่มลูกค้าในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยประเภทจำนำรถมอเตอร์ไซค์เพื่อขยายฐานลูกค้ากว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นในการหาทำเลขยายสาขา เราใช้วิธีการหาแหล่งชุมชนจากการสังเกตของพนักงานสาขาในละแวกใกล้เคียงหรือคำแนะนำของผู้จัดการเขตที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นๆ โดยเฉพาะทำเลที่มีกลุ่มไฟแนนซ์ท้องถิ่นอยู่
เป็นจำนวนมากซึ่งถือเป็นคู่แข่งโดยตรง เพราะเราเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะมีชุมชนอยู่อย่างหนาแน่นมากพอที่จะมีความต้องการสินเชื่อจำนวนมาก ซึ่งการเติบโตของของยอดการขอสินเชื่อในช่วงแรกค่อนข้างเติบโต จึงทำให้เรามั่นใจกับการขยายสาขาด้วยวิธีดังกล่าว แต่เมื่อแนวโน้มการเติบโตมาถึงจุดที่การขยายสาขาไม่ง่าย
อีกต่อไปแม้จะเพิ่มแรงจูงใจในการขายสินเชื่อให้กับพนักงาน รวมถึงสาขาที่เปิดใหม่มีจุดคุ้มทุนที่นานขึ้น และคู่แข็งที่เร่งเปิดสาขาเพิ่มขึ้นหลายพันสาขาในช่วงเวลาแค่ 1-2 ปี เรากลับมองว่าการทำแบบนั้นจะทำให้การควบคุมมาตรฐานการบริการยิ่งทำได้ยากขึ้นซึ่งจะส่งผลเสียกับลูกค้ามากกว่า เราเลยตัดสินใจว่าทุกสาขาที่จะเปิดต่อจากนี้จะเปิดอย่างมีคุณภาพ ตรงกลุ่มเป้าหมาย ได้มาตรฐานงานบริการลูกค้าอย่างแท้จริง และมีประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้น
จากปัญหาดังกล่าว เราจึงเริ่มคิดที่จะหาวิธีการเครื่องมือหรือเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเราได้มารู้จักกับตัวช่วยที่สำคัญอย่าง นอสตร้า แมพ ( NOSTRA MAP ) ข้อมูลแผนที่ดิจิตอลที่มีความละเอียด ถูกต้อง และทันสมัยสูงสุดของไทย ตลอดจนบริการข้อมูลพิกัดตำแหน่งครบทุกรูปแบบ เมื่อนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ หรือ GIS เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลต่างๆ ของ “นอสตร้า แมพ” ในการนำมาใช้วิเคราะห์และอธิบาย ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ ข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ ประชากร ข้อมูลด้านการขนส่ง การตลาด และข้อมูลของคู่แข่งทางธุรกิจ ที่นำมาช่วยวิเคราะห์และช่วยตัดสินใจในการขยายสาขาไปยังทำเลที่ถูกต้องได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
นอสตร้า แมพ มีขั้นข้อมูลครบถ้วน และครอบคลุมทั่วประเทศไทยครบ 77 จังหวัด ประกอบด้วย ขอบเขตการปกครองทุกระดับ เส้นทางน้ำ โครงข่ายเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อทั้งประเทศ ตำแหน่งทางแยก และสถานที่สำคัญต่างๆ กว่า 1.3 ล้านจุด รวมถึงมีข้อมูลพิเศษที่ช่วยเสริมการทำงานเฉพาะของธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น เขตไปรษณีย์ ขอบเขตอาคาร เบอร์โทรศัพท์ จำนวนประชากร สามารถตอบโจทย์การขยายสาขาได้อย่างตรงจุด จากความสำเร็จของการนำ GIS และแผนที่นอสต้ามาใช้ในงานขยายสาขาของศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ ทำให้พอร์ตสินเชื่อรถมอเตอร์ไซด์เติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดดถึง 300% ภายในระยะเวลา 6 เดือน แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง
ข้อมูลจากกราฟเป็นการเปรียบเทียบจำนวนสัญญาจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์สะสม เปรียบเทียบจำนวนสัญญาจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์สะสม (นับจากช่องทางสาขาเท่านั้น ) ตั้งแต่เปิดสาขาเดือนแรกจนถึงเดือนทที่ 12 จะเห็นว่าตัง้แต่ปี 2011 เป็นต้นมา การเติบโตของจำนวนสัญญาลดลงในสาขาใหม่ที่เปิดแต่ละปี แม้ว่าในปี 2014 จะไม่ได้ลดลงต่อเนื่องและมีเพิ่มขึ้น 6 เดือนหลัง นั่นเป็นเพราะเป็นเพราะความพยายามในการเพิ่มแรงจูงใจให้พนักงานสาขาด้วยการปรับเพิ่มผลตอบแทนของพนักงาน แต่ในปี 2015 ช่วงกลางปี เป็นครั้งแรกที่เราใช้ข้อมูลแผนที่นอสตร้า เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล จึงมีสาขา 2 แบบให้ศึกษา คือ สาขาที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแผนที่นอสตร้า ในการเปิดสาขา และสาขาที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งจะเห็นผลอย่างชัดเจนว่าสาขาที่ใช้ การวิเคราะห์ข้อมูลแผนที่นอสตร้า ในการเปิดสาขาได้ผลที่ดีกว่า จนตอนนี้เรารู้สึกว่ารู้จักแผนที่นอสตร้า ช้าไป นอกจากเราใช้ การวิเคราะห์ข้อมูลแผนที่นอสตร้า หาที่ตั้งที่เหมาะสมจนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว เรายังนำเทคโนโลยีมาต่อยอดนำใช้ในงานอื่นๆ ด้วย เช่น การตั้งเป้าสาขา การช่วยคำนวณหากำลังคนที่เหมาะสมกับปริมาณงานสาขางานดูแลบริหารงานติดตามหนี้ การกำหนดเส้นทางให้รถกระจายเสียงตามชุมชนต่างๆ ของสาขาที่เปิดใหม่ รวมถึงเส้นทางการเดินตลาดของพนักงานสาขาที่ต้องการเข้าไปแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ก้าวต่อไปสำหรับศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ กับเทคโนโลยีแผนที่นอสตร้าต่อจากนี้คือ การเพิ่มบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เทคโนโลยี จีไอเอส (GIS) เพื่อรองรับการทำงานที่มีมุมมองใหม่เกิดขึ้นแทบทุกเดือน อีกทั้งยังต้องรองรับการขยายการใช้งานเพื่อกำหนดกลยุทธ์ของการตั้งสาขาให้สอดคล้องกับการตั้งสาขาใหม่ของไฟแนนซ์ท้องถิ่นที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคต นอกจากนี้เราคาดว่าจะนำไปใช้ในการบริหารจัดการรถใช้งานของผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้น้อยลง มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้เรากำลังพิจารณานำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนงานของพนักงานติดตามหนี้ภาคสนาม และการตรวจสอบภาคสนามจากส่วนกลางอีกด้วย ภารกิจในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสาขาก็คือ การเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
โดยตั้งเป้าไว้ที่ 500 สาขาในปี 2560 ซึ่งจากฐานข้อมูลชุดแรกเรายังสามารถตั้งสาขาได้เพิ่มเติมอีก และยังมีทำเลที่สามารถขยายออกไปได้อีกมากทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายสาขาออกไปได้เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ประสิทธิภาพของสาขาก็จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นในอนาคต และเรายังมีโมเดลของการตั้งสาขาใหม่อีกหลายโมเดลให้เลือกใช้ได้ในอนาคต หากสถานการณ์ในการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นกว่านี้จากเทคโนโลยีที่เราคิดว่าใช่สำหรับธุรกิจของเรา