ตะลุยกินแหลก แหวกดง 14 ร้าน Local Street Food ทั่วกรุง
Street food ยั่วๆมาแล้วจ้า !!! นอสตร้าขอชวนผู้ใช้งานไปตะลุยกิน 14 ร้าน Local Street Food ทั่วกรุง ที่สายกินไม่ควรพลาดทุกประการทั้งปวง พร้อมแผนที่นำทางไปยังร้าน ข้อมูลเปิดปิดร้าน ราคา ครบจบเพียงคลิกเดียว : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
- ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อหลบมุม (ในวัดไตรมิตร)
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้า หรือ อีกชื่อคือ ร้านหลบมุม เป็นร้านที่มีโลเคชั่นที่แปลกที่สุดร้านหนึ่งใน กทม. เพราะตั้งหลบมุมอยู่ภายในกำแพงวัดไตรมิตรฯ จะมองหาร้านให้สังเกตุบริเวณที่มีคนนั่งล้อมวงกันเยอะๆ มีหม้อทำข้าวเกรียบวางเรียงรายอยู่หน้าคนขาย ล้อมรอบไปด้วยนักชิมที่มองข้าวเกรียบแต่ละตัวด้วยใจจดใจจ่อ ที่ร้านมีไส้อยู่ 7 ไส้ ได้แก่ กุยช่าย ถั่วงอกผัด ข้าวโพด เต้าหู้ ผักรวม ไชโป๊ผัดหวาน และถั่วฝักยาว | วิธีการทาน เจ้าของร้านจะมอบชามน้ำซุปให้หนึ่งชาม และ ถามว่าน้ำซุปจะใส่อะไรบ้าง สามารถเลือกหรือจะรับทั้งหมดก็ได้ ที่นี่มีทั้งกระดูกหมู หมูสับเด้ง ขาไก่ และเลือด จากนั้นก็ให้เลือกไส้ ในชามแรกจะได้จำนวน 6 ตัว ถ้ายังไม่อิ่มขอเพิ่มตัวข้าวเกรียบ จะคิด 3 ตัว 5 บาท บนโต๊ะจะมีเครื่องปรุงเหมือนเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยว แต่จะมีพิเศษคือ กากหมูกระเทียมเจียว | และบางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมมาขายในวัดได้นั้น เนื่องจากป้าเม้าเป็นแม่ครัวของวัด เลยขออนุญาตเจ้าอาวาสขอพื้นที่เล็กๆ เพื่อทำมาหากิน ซึ่งเจ้าอาวาสก็อนุญาต แต่อนุญาตเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น ทำให้คนกรุง ได้มีของอร่อยทานโดยไม่ต้องขับรถไกลไปถึงแปดริ้วอีกแล้ว - ข้าวแช่สูตรชาววัง บ้านวรรณโกวิท
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
อาหารโบราณที่อาจจะเรียกได้ว่าเกิดมาพร้อมๆ กับบ้านโบราณหลังนี้ โดยสูตรก็เป็นของเจ้าของบ้าน คือ คุณแม่ชื้น วรรณโกวิท ที่ได้ถ่ายทอดสูตรดั้งเดิมของสำรับต่างๆ มายัง คุณยายฉวีวรรณ อารยะศาสตร์ ที่นอกจากจะอนุรักษ์รักษาสำรับชาววังให้คงอยู่แล้ว ยังได้เผื่อแผ่มาให้ผู้อื่นได้ชิมลิ้มรสอาหารชาววังแท้ๆ อีกด้วย ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท จะเน้นวัตถุดิบที่ดี คัดสรรของดีจากแหล่งผลิต ไชโป๊ก็ต้องของราชบุรี เนื้อปลาก็ต้องปลากระเบนยี่สนจากปราณบุรี วิธีการปรุงกระบวนการทำก็ต้องพิถีพิถัน เพราะเครื่องเคียงบางอย่างทำยากต้องอาศัยความปราณีต-เชี่ยวชาญ เช่น พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้งนึ่งแล้วห่อด้วยแพไข่ และ ลูกกะปิทอด แม้กระทั่งผักเคียง เช่น แตงกวาก็ทำเป็นรูปใบไม้ หรือกระชายที่ฉลุลายให้กลายเป็นดอกปีบ ซึ่งทำให้สำรับนี้มีคุณค่าและงดาม ซึ่งสูตรของบ้านวรรณโกวิทจะมีเครื่องเคียง 5 อย่าง ได้แก่ ลูกกะปิทอด ปลายี่สนผัดหวาน ไชโป๊ฝอย หมูหรือเนื้อฝอย และพริกหยวกสอดไส้หมูห่อด้วยแพไข่ | วิธีการทาน ตักข้าวใส่ชามแบ่ง ใส่น้ำหอมและน้ำแข็ง แล้วตักข้าวพร้อมน้ำเข้าปากก่อน เคี้ยวให้ละเอียด ถึงค่อยตักเครื่องเคียง 1 อย่างตามเข้าไป น้ำหอมในแต่ละคำจะช่วยล้างปากและเตรียมปรับรสให้พร้อมรับเครื่องเคียงชนิดถัดไปโดยที่รสและกลิ่นไม่เพี้ยน - ขนมเบื้องโบราณแม่ประภา
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
ขนมเบื้องที่ใส่แค่ครีมขาวๆ หวานๆ โรยฝอยทอง หาทานได้ทั่วไป แต่ขนมเบื้องโบราณแท้ๆ หาที่อร่อยๆ ทานได้ยาก ยิ่งในยุคสมัยที่ทุกคนต้องเร่งรีบแข่งขันกับเวลา เพราะการทำขนมเบื้องโบราณต้องใช้เวลาในการทำ เริ่มจากการวนแป้งบนเตาที่มีความร้อนพอดี ซึ่งแป้งก็ใช้เป็นแป้งแบบพิเศษ ที่ใช้ข้าวเก่ามาโม่พร้อมถั่วทอง ทำให้แป้งกรอบอร่อย หลังจากวนแป้งไปแล้วก็ต้องรอสักพัก จากนั้นทาเคลือบด้วยไข่ที่ผสมน้ำตาลอ้อยเป็นชั้นที่หนึ่ง ชั้นที่สองคือเรียงส่วนประกอบของไส้หวาน โดยเริ่มจากมะพร้าวทึนทึกที่นำไปปรุงกับน้ำตาลปี๊ปและไข่ไก่ จากนั้นโรยด้วยฝอยทอง วางทับด้วยลูกพลับแห้ง เป็นอันเสร็จสิ้นพร้อมเสิร์ฟ ส่วนไส้เค็ม จะนำกุ้งแม่น้ำมาผัดกับสมุนไพรต่างๆ อาทิ พริกไทย รากผักชี ใบมะกรูด โรยด้วยต้นหอมซอยปิดท้ายสำหรับสูตรไส้เค็ม |สำหรับประวัติแม่ประภานั้นก็มีรสชาติกล่มกล่อมไม่แพ้ขนม โดยเมื่อ 60 กว่าปีก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แม่ประภาซึ่งเป็นสะใภ้ห้างแผ่นเสียงตรากระต่าย หาบขนมเบื้องสูตรนี้ไปตามที่ต่างๆ ซึ่งก็รำลือกันถึงความอร่อยของขนมเบื้องแม่ประภา จนต่อมาจึงได้ตั้งร้านเป็นเรื่องราวที่บางลำภูในสถานที่ในปัจจุบัน และมีผู้ดูแลสืบทอดของร้านเป็นรุ่นที่ 2 - ข้าวแกงเจ๊กปุ้ย ข้าวแกงดังบนบาทวิถีเยาวราช
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
ข้าวแกงเจ๊กปุ้ย, ข้าวแกงเจ๊เฉี๋ย, ข้าวแกงเก้าอี้แดง หรือ ข้าวแกงเก้าอี้ดนตรี ก็เรียก เพราะร้านนี้จะมีจุดเด่น ตรงที่ร้านนี้จะมีลูกค้าเดินกันขวักไขว่ไปมา เพราะหาที่นั่ง ตรงไหนว่างก็จับจองเก้าอี้กันได้เลย เวลาสั่งอาหารลูกค้าจะเดินมาสั่งที่ตรงร้าน หรือ จะรอให้คุณนัท ผู้ดูแลร้านเดินมาถามก็ย่อมได้ เพราะเมนูของร้านนี้มีประมาณ 10 กว่าอย่าง ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกค้าประจำ จำเมนูอาหารได้เกือบหมดไม่ต้องเดินไปดูที่หม้อแกงเลย อาทิ แกงกะหรี่หมูใส่ฟัก, แกงกะหรี่เนื้อ, แกงเขียวหวานไก่, ลูกชิ้นปลากรายใส่ฟัก, ผัดเผ็ดปู, ซี่โครงหมูอบพริกเผา, หมูหวาน, ผัดเผ็ดหน่อไม้ไก่, ปีกไก่เหล้าแดง, แพนงหมู เป็นต้น | ร้านนี้เปิดบริการมานานกว่า 70 ปี มีคุณนัท เป็นผู้สืบทอดรุ่นที่ 3 สำหรับชื่อร้าน”เจ๊กปุ้ย” ก็คือชื่อของอากง ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกร้านนี้มา ถ้านับถึงตอนนี้ก็กว่า 70 ปีแล้ว - ราดหน้า 40 ปี ของอร่อยสามแพร่ง
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
“ราดหน้ายอดผัก สูตร 40 ปี” จุดเด่นของสูตร 40 ปีอยู่ที่หมูนุ่มชิ้นโตรสชาติกลมกล่อมแบบเข้าเนื้อ ทานพร้อมกับเส้นนุ่มเหนียวตัดกับผักคะน้าสดกรอบเต็มคำชุ่มฉ่ำด้วยน้ำราดหน้ารสชาติเข้มข้น นอกจากเมนูราดหน้าทั่วไป ที่ร้านนี้ยังครบเครื่องเรื่องราดหน้า เพราะมีเมนูราดหน้าในรูปแบบต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นราดหน้าทะเล, หมี่กรอบขาว, หมี่กรอบเหลือง, เกาเหลาราดหน้าหมู, เกาเหลาราดหน้าทะเล, หมี่กรอบผัดซีอิ้ว และนอกจากนี้ยังมี Topping ที่สุดแสนจะคลาสสิค นั่นก็คือ ไข่ดาว หรือ ไข่เจียว ที่โปะไว้เพื่อความพิเศษของจานเส้นเหล่านี้ - โรตี-มะตะบะ ของเด็ดท่าพระอาทิตย์
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
เจ้าของร้านเป็นคนบังคลาเทศ ชื่อ “อับดุล การิม” เริ่มขายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2486 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แรกเริ่มอยู่ที่ท่าพระจันทร์ ย้ายมาที่ท่าพระอาทิตย์เมื่อปี 2527 ร้านแห่งนี้เปิดมากว่า 30 ปีแล้ว จากรุ่นสู่รุ่น ทำสืบทอดต่อกันมา เข้ารุ่นที่ 3 | อาหารจานเด็ดคือ โรตี – มะตะบะ ตามชื่อร้าน ใครที่ชอบกินโรตี หลงใหลแป้งที่ผ่านการนวดจนเหนียวนุ่มหนึบหนับ ถึงขนาดที่ทานเปล่าๆ ก็อร่อยได้ แนะนำต้องมาร้านนี้ ไม่ว่าจะเป็น เมนูโรตีนมธรรมดา หรือเมนูดัดแปลงต่างๆ อาทิ โรตีช็อกโกชิพ, โรตีไข่ชีส, โรตีกล้วย-ช็อกโกแลต, โรตีแฮมไก่ชีส, โรตีใส่ไข่, โรตีแยมสตรอเบอรี่ สำหรับ เมนูของคาว ที่นี่จะมี โรตีมะตะบะ, มะตะไก่, มะตะบะเนื้อ, มะตะบะทะเล, มะตะบะปลาสมุนไพร, มะตะบะผัก หรือ จะเป็นเมนูโรตีจิ้มแกง ก็นับว่าเด็ด อาทิเช่น โรตี-แกงเขียวหวาน โรตี-แกงมัสมั่น ถูกใจคนรักโรตีแน่ๆ นอกจากโรตีมะตะบะแล้ว ทางร้านยังมีเมนูแนะนำอีกมากมาย อาทิ ข้าวหมกไก่, แกงกระหรี่, แกงมัสมั่นไก่, เนื้อ ฯลฯ อร่อยไม่อร่อยให้เช็คเรตติ้งได้จากจำนวนคนยืนรอที่หน้าร้านได้เลย - ออนล๊อกหยุ่น ตำนานกาแฟยุคจิ๊กโก๋หลังวัง
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
ถ้าพูดถึงร้านอาหารเช้า ออนล๊อกหยุ่น ให้ย้อนกลับไปเมื่อครั้งเฉลิมกรุงเฟื่องฟู จิ๋กโก๋ฟูฟ่องเต็มท้องถนน เมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้ ดาราดังทั่วฟ้าเมืองไทยในยุคนั้นต่างก็เคยมานั่งโต๊ะกลมสั่งกาแฟจิ้มขนมปังในร้านนี้ทานด้วยกันทั้งนั้น | ด้วยความแปลกใหม่ของเมนูอาหารที่ผสมตะวันตกกับตะวันออกไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ชุดอาหารเช้าแบบฝรั่ง ขนมปังปิ้ง ไส้กรอกทอด ขนมปังชุบไข่ แฮม เบคอน ไข่ดาว หรือ จะนั่งกินขนมปังปิ้งจิบชาจีน ซึบซับบรรยากาศวันวานผ่านการตกแต่งของร้านแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางของ โต๊ะ เก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมเหมือนเมื่อแรกเปิดร้าน แต่ที่ดูโดดเด่น คือ แถวฝั่งโต๊ะที่นั่งแบบบูธ ที่หาชมและนั่งได้ยากในยุคสมัยนี้ | ปัจจุบันร้านนี้ดูแลโดยคุณประพนธ์ ทยานุกุล ทายาทรุ่นที่ 3 - นายอ้วนเย็นตาโฟ รสเด็ดแห่งเสาชิงช้า
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
ร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟชื่อดังที่เปิดขายมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบันร้านนี้ผู้ที่ดูแลคือ ลูกของนายอ้วน นับเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของร้าน | จุดเด่นของร้านอยู่ที่รสชาติจัดจ้านของเย็นตาโฟที่เริ่มด้วย รสชาติเผ็ดนำ ตามมาด้วยความเปรี้ยว ผสมความหวาน ปิดท้ายด้วยความเค็ม ซึ่งถือเป็นสูตรเด็ดเคล็ดลับของน้ำซอสเย็นตาโฟร้านนี้เลยทีเดียว อีกหนึ่งไฮไลท์ของเย็นตาโฟชามนี้ ได้แก่ เครื่องเคราและลูกชิ้นต่างๆ ที่ประโคมโหมกระหน่ำกันมาเต็มชาม อาทิ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นหมูที่ทำคล้ายลูกชิ้นแคะ ลูกชิ้นกุ้ง ฮื่อก้วย เกี๊ยวกรอบ ยังไม่พอผสมให้กลมกล่อมขึ้นไปอีกด้วย บะเต็ง-หมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็กๆ ที่นำมาผัดกับซีอิ๊วดำและน้ำตาล รสหวานมันตัดกับรสชาติเผ็ดเปรี้ยวทำให้เย็นตาโฟนายอ้วนเป็นเย็นตาโฟที่อร่อยครบเครื่องในชามเดียว - อึ่งเป็งชุน ก๋วยเตี๋ยวปลา
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
อึ้งเป็งชุงลูกชิ้นปลา ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านดังเก่าแก่ ที่มีด้านหน้าร้านติดถนนเยาวราชในจุดที่เรียกได้ว่าทำเลดีสุดสุด เพราะตามฮวงจุ้ยร้านอยู่ในช่วงท้องของมังกรพอดิบพอดี แต่ที่ดีกว่านั้นคือ รสชาติของบรรดาลูกชิ้นทั้งหลายที่แสดงแสนยานุภาพความอร่อย ทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮื่อก้วย กัดเข้าไปแต่ละลูกรับรู้ได้ถึงรสสัมผัสของเนื้อปลา เนื้อกุ้ง เต็มๆ คำ | คุณแม่ส่วง (เจ้าของร้านอึ้งเป็งชุง รุ่นที่ 2) ซึ่งร้านนี้เปิดมากกว่า 80 ปีแล้ว ยังคงใช้สูตรการทำแบบดั้งเดิม โดยคัดสรรวัตถุดิบที่สดสะอาด อาทิ ลูกชิ้นปลาก็เลือกเฉพาะปลาหางเหลือง ปลาดาบ เลือกส่วนปลาเนื้อขาวไปคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง นวดจนเนื้องวดพอดี จากนั้นก็นำเข้าตู้เย็น รอปรุงสุกพร้อมขายในวันรุ่งขึ้น เรียกว่า ทำกันวันต่อวันขายกันวันต่อวัน ลูกชิ้นของที่นี่จึงถือว่าเป็นสุดยอดแห่งความอร่อย และถ้าใครติดใจจะซื้อกลับไปทานที่บ้านทางร้านก็มีลูกชิ้นแยกจำหน่าย อาทิ ลูกชิ้นกุ้ง ราคากิโลกรัมละ 400 บาท ลูกชิ้นปลา ราคากิโลกรัมละ 350 บาท - กิมทอง ลูกชิ้นเนื้อน้ำใส เชลล์ชวนชิมระดับตำนาน
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
กิมทอง ลูกชิ้นเนื้อน้ำใสในตึกแถวย่านแพร่งภูธร ซึ่งภายในร้านยังคงตกแต่งเป็นแบบเดิมเหมือนเมื่อ 60 ปีก่อน และที่ไม่เปลี่ยนเลยคือป้ายเชลล์ชวนชิมรุ่นดึกดำบรรพ์ที่มีรูปแบบแปลกตาไม่เคยพบเห็นป้ายแบบนี้ที่ไหนมาก่อน คาดว่าจะเป็นร้านแรกๆ ที่ได้ป้ายรับรองจากท่านหม่อมถนัดศรีฯ ส่วนบนตู้ก๋วยเตี๋ยวเขียนว่า กิมทอง ซึ่งชื่อเป็นพ่อของเฮียขวัญ หรือ คุณพสุเจต กาญจนากรกุล ผู้รับช่วงกิจการต่อจากพ่อกิมทอง จากวันที่คุณพ่อกิมทองเปิดขายมาจนถึงวันนี้เป็นเวลานานกว่า 60 ปีแล้ว ในปัจจุบันกระบวนการทำลูกชิ้นก็ยังเหมือนเดิม ลูกชิ้นที่ทำเริ่มจากเลือกวัตถุดิบเอง ปรุงเอง บีบเอง เหมือนเมื่อสมัยพ่อกิมทองทำ ทำให้มีรสชาติอร่อยแบบดั้งเดิม รสสัมผัสของลูกชิ้นจะเหนียวนุ่มอร่อย ส่วนลูกชิ้นเอ็นก็มีความเด้งลิ้น เพราะใช้ส่วนเอ็นที่เหลือจากการแล่เนื้อแล้วมาทำ และทีเด็ดคือน้ำซุป ซึ่งถึงจะเป็นน้ำใส แต่รสชาติกลมกล่อมหอมหวาน เอาไว้ซดตามคล่องคอดีจริงๆ - ประจักษ์ เป็ดย่างร้อยปี
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
เริ่มเมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2452 นายโช้ย กว๋อง จากมณฑลกวางตุ้ง เริ่มหาบเร่ขายบะหมี่โดยใช้ชื่อว่า ซินกี่ แปลว่า ร้านใหม่ ต่อมาในรุ่นที่สองได้มีการเปิดร้านในตึกแถวคูหาเดียว จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น ประจักษ์ตามชื่อผู้ที่รับช่วงต่อ จากวันนั้นก็ผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว ที่ชาวบางรักและคนกทม. ได้ลิ้มชิมรสอาหารสูตรกวางตุ้งที่แสนจะอร่อย โดยเฉพาะอาหารจานเป็ด อาทิ เป็ดย่าง, ข้าวหน้าเป็ด, บะหมี่เป็ดย่าง | เป็ดย่างที่นี่จะใช้เตาฟืนในการย่าง นำซอสราดทั้งภายในและภายนอกตัวเป็ด จึงทำให้ได้เป็ดที่หอมกรุ่นตั้งแต่เนื้อไปถึงหนังเป็ด เมื่อได้เคี้ยวเนื้อนุ่มๆ ไปพร้อมๆ กับหนังที่ไม่กรอบมากที่ราดด้วยน้ำซอสเป็ด ทานไปแต่ละคำจะสัมผัสได้ถึงความฉ่ำของรสเป็ดที่หวานละมุนลิ้นจนแทบจะไม่อยากกลืนเลยทีเดียว | นอกจากเป็ดย่างแล้วเมนูที่ขึ้นชื่อของที่ร้านนี้ก็คือ หมูแดง เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวหมู - ก๋วยเตี๋ยวแคะ คู่ตลาดนางเลิ้ง
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
คุณน้าสุวิมล ที่ยืนลวกเส้นอยู่คือ เจ้าของร้านสุวิมล ก๋วยเตี๋ยวแคะ หรือ ร้านก๋วยเตี๋ยวแคะนางเลิ้ง ที่เปิดคู่ตลาดนางเลิ้งมานานกว่า 30 ปี โดยรับช่วงกิจการมาจากคุณอาที่ขายเมื่อ 60 ปีก่อน | ชื่อของก๋วยเตี๋ยวแคะ มีที่มาคือ สมัยก่อนชาวจีนแต้จิ๋วเรียกคนจีนฮากกาว่า “แคะเกี้ย” จึงเรียกก๋วยเตี๋ยวตำรับฮากกาว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวแคะไปพร้อมกันด้วย | ก๋วยเตี๋ยวแคะเด่นที่ลูกชิ้น ลูกชิ้นแคะมีความแปลกและอร่อยตรงที่มีการนำเต้าหู้มาเป็นส่วนหนึ่งของลูกชิ้น ทั้งเต้าหู้ขาว เต้าหู้ทอด หรือ เต้าหู้ยัดไส้ | ลูกชิ้นเต้าหู้ของเจ๊สุวิมล มีทั้งแบบเต้าหู้ขาวและเต้าหู้ทอด ผสมใส่หมูสับ นอกจากลูกชิ้นเต้าหู้แล้วก็ยังมีลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ฮื่อก๊วย โดยเฉพาะเกี๊ยวกรอบก็นับเป็นของพิเศษอีกอย่างของร้านนี้ วิธีการทำคือ นำเกี๊ยวห่อเผือกผสมหมูสับไว้ข้างใน แล้วนำไปทอดทานพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวจะยิ่งให้รสชาติก๋วยเตี๋ญวโดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งคุณน้าสุวิมลทำลูกชิ้นเองวันต่อวัน - นายหมง หอยทอดเตาถ่าน
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
ถ้าพูดถึงยุทธจักรแห่งความอร่อย ต้องมีชื่อถนนเยาวราชผุดขึ้นมาอย่างแน่นอน และหนึ่งในร้านที่มีชื่อเสียงเคียงคู่ถนนเยาวราชมากว่า 30 ปีคือ นายหมงหอยทอดเตาถ่าน ทีเด็ดคือ เตาถ่าน และ หอย ซึ่งเตาถ่านจะให้ความร้อน ความหอม รสชาติได้ดีกว่าเตาแกส สำหรับหอย ที่ร้านนายหมงมีทั้งหอยนางรมและหอยแมลงภู่ ที่คัดสรรเลือกแต่ที่สดใหม่ทุกวันและต้องได้ขนาดที่พอดี สำหรับหอยมีให้เลือกสองเมนู คือ ออลัวะ ที่แปลว่า หอยทอดแบบแป้งกรอบกัดดังกรุบ และ ออส่วน ที่ทอดแบบแป้งนุ่มเหนียวเคี้ยวหนุบหนับ สำหรับสูตรหอยทอดคิดค้นโดยนายหมง โดยร้านแรกเปิดที่ซอยเยาวพานิชย์ ครั้งที่ 2 ย้ายมาซอยแปลงนาม และ ย้ายครั้งที่ 3 มาที่ถนนพลับพลาชัย ในปัจจุบันลูกสาวนายหมงเป็นผู้ดูแลกิจการต่อจากนายหมง แต่รสชาติหรือสูตรก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม | นอกจากเมนูหอยทอด ยังมีจานเด็ดอีกหลายจานที่อร่อยไม่แพ้หอย อาทิเช่น ข้าวผัดปู, ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่, ข้าวไข่เจียวปู - ข้าวขาหมูเจริญแสง ขาหมูมิชลิน
พิกัดบนแผนที่พร้อมนำทาง : https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/14streetfood
ข้าวขาหมูที่มีเครื่องเคราครบทุกส่วนของหมู ตั้งแต่ เนื้อ หนัง ไส้ ขาใหญ่ ขาเล็ก คากิ ข้อคากิ ตับ ลิ้น หัวใจ เรียกว่าอยากได้ส่วนไหนร้านนี้จัดหามาให้ได้ และด้วยความครบเครื่องทุกสิ่งอย่าง กระบวนการจัดทำจึงค่อนข้างพิถีพิถัน ตั้งแต่คัดไซส์ของหมูเพื่อให้ได้ขนาดพอเหมาะ การทำความสะอาด การปรุงที่แต่ละขั้นตอนต้องใช้เวลาพอสมควร เริ่มทำจากบ่ายของวันนึงเสร็จสิ้นก็ตอนเช้าพร้อมขายของอีกวัน เพื่อให้ได้ความสดอร่อยของหมูในแต่ละวัน | ความนุ่มของเนื้อหมูเรียกว่าแทบจะละลายในปาก เพราะผ่านการตุ๋นอย่างยาวนานจนเนื้อเปื่อย เนื้อมีรสชาติหวานนำเค็มตามในขนาดที่กลมกล่อม หอมหวลกรุ่นกลิ่นเครื่องยาจีนแบบเข้าไปถึงเนื้อ น้ำราดไม่หนืดมากแต่มีความเหนียวในระดับพอดี ตัดหวานด้วยผักดองกับน้ำจิ้มรสเปรี้ยว เผ็ด เพิ่มความเผ็ดซ่าด้วยกระเทียมสดและพริกสด การันตีความอร่อยด้วยระยะเวลาที่เปิดมานานกว่า 60 ปี นับเป็นหนึ่งในร้านขาหมูที่ติดอันดับท๊อปลิสต์ของประเทศไทยเลยทีเดียว
สามารถดาวน์โหลดฟรี NOSTRA map Application แอปฯแผนที่นำทางประเทศไทยที่มีข้อมูลสถานที่แม่นยำ ไม่มีหลงทาง ออกแบบมาเพื่อคนไทยได้ใช้กันฟรีๆ ได้ที่ https://map.nostramap.com/mobile